สำหรับการค้นพบเมืองลับของมาชู ปิกชู ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนเพราะกำลังพบเบาะแสซึ่งมันอยู่ในโพงที่ขุดขึ้นมาใหม่ในสถานที่นี้เบาะแสอื่นๆอยู่ต่ำลงไปใต้มาชูปิกชูขณะที่ทีมสำรวจตรวจสถานที่นี้เป็นครั้งแรกความลึกลับเหล่านี้ได้ฝังใจของนักโบราณคดีและเขายังได้บอกอีกว่าที่นี่นั้นมีของโบราณที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากไม่ใช่แค่ของชาวเปรูแต่เป็นมรดกของคนทั้งโลก
สำหรับการทำความเข้าใจกับมรดกนี้มันเป็นเรื่องที่ท้าทายของนักโบราณคดีเป็นอย่างมากและรวมไปถึงการทำงานอย่างหนึ่งที่เขานั้นต้องแรกเปลี่ยนคือความอันตรายที่สุดในโลกเส้นทางได้ถูกสร้างด้วยคนที่เดินเท้ามาก่อนและกลัวความสูงเล็กน้อยชนเผ่าอินคาพวกเขาลืออำนาจในช่วงกลางศตวรรษที่14ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาที่สร้างถนนสัญจรสิ่งก่อสร้างมากกว่า1,6000กิโลเมตรยังมีให้เห็นทุกวันนี้ยังมีหลักฐานอื่นๆที่บ่งบอกถึงการสั่งงานของนายช่างและคนก่อสร้างที่ลาบขั้นบนไดลำคลองและเมืองศิลาที่เป็นคู่แข่งกับโรมสมัยโบราณ
แต่ไม่เหมือนจักรวรรดิ โรมัน
พวกเขาก่อสร้างโดยที่ไม่มีรอกไม่มีเหล็กและไม่มีภาษาที่เขียนเอาไว้ ชนเผ่าอินคา มีระบบคำนวนโดยใช้เชือกที่มัดเป็นปมแต่ไม่มีการบันทึกในชีวิตประจำวันหรือในประวัติศาสตร์ดังนั้นสิ่งส่วนใหญ่ที่เรารู้มาจากชาวสเปนที่เข้ายึดเมืองในศตวรรษที่15เรื่อราวเหล่านี้ในเล่าเรื่องอคติของผู้ยึดครองความเห็นที่ต่างกันมาจากจิตรกรชนเผ่าอินคาโอม่าเกิดหลังจากที่ชาวสเปนนั้นเข้ามาได้ไม่นานดังนั้นเขาจึงเป็นผู้สังเกตที่เชื่อทั้งสองโลกเขาก็ได้วาดภาพง่ายๆเกี่ยวกับเทคนิดการทำไรนับ100ภาพ
ภาพราชวงค์และประวัติการยึดครองของชนเผ่าอินคาจากแหล่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้รู้ว่าชนเผ่าอินคาเป็นนักรบที่ดุดดันที่ปราบผู้คนต่างเชื่อชาติไปเป็นจำนวนมากขยายอำนาจจนเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีพื้นที่3,800กิโลเมตรการเลี้ยงดูประชากรของพวกเขาทำโดยใช้พื้นที่ลาดชันเป็นที่ทำกิน
โดยมีที่ลาบซึ่งเป็นขั้นบนไดเชื่อกันว่ามีพื้นที่อีกมากที่ใช้ในการเพาะปลูกในสมัยชนเผ่าอินคาซึ่งมากกว่าเปรูสมัยใหม่ในปัจจุบันแต่ลายละเอียดที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับอินคาคือพวกเขาปกครองเพียงแค่100ปีเท่านั้นผู้คนในจักรวรรดิของพวกเขาล้มตายประการแรกด้วยโรคต่อมาด้วยสงครามการเมืองจนในที่สุดโดยผู้พิชิดสเปนนับจากชวสเปนและรู้จักรพรรดิของอินคาถอยเข้าไปอยู่ในหุบเขา